- หน้าแรก
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- รายละเอียดข่าว
สศท.9 แจงพื้นที่เขตความเหมาะสมปลูกข้าว คาบสมุทรสทิงพระ แนะ เกษตรกรศึกษาพืชทางเลือกรอบด้าน
ข่าวที่ 127/2559
วันที่ 22 กันยายน 2559
สศท.9
แจงพื้นที่เขตความเหมาะสมปลูกข้าว คาบสมุทรสทิงพระ แนะ เกษตรกรศึกษาพืชทางเลือกรอบด้าน
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 ศึกษาเขตความเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว
บนคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ระบุ เกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขต S1 และ S2 มีผลผลิตเฉลี่ย 716.04 กก./ไร่ รายได้สุทธิ
515.70 บาท/ไร่ ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขต S3 และ N
พบว่า มีผลผลิตเฉลี่ย 507.04 กก./ไร่ รายได้สุทธิ -423.31 บาท/ไร่ ย้ำ หากเกษตรกรต้องการปลูกพืชทางเลือกอื่น
ต้องศึกษาพืชทางเลือกใหม่ที่มีลู่ทางการตลาด ดิน และข้อมูลต้นทุนการผลิตอย่างรอบด้าน
นายคมสัน
จำรูญพงษ์
รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 (สศท.9) ได้ศึกษาเขตความเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว
บนคาบสมุทร สทิงพระ จังหวัดสงขลา
ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่อำเภอระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ และสิงหนคร เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของการปลูกข้าวในพื้นที่
รวมทั้งศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนสำหรับสินค้าเกษตรทางเลือกชนิดอื่นๆ
ที่เกษตรกรมีความสนใจเพื่อทดแทนการปลูกข้าวในพื้นที่นาที่ไม่เหมาะสม สำหรับเขตความเหมาะสมการปลูกข้าวของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวบนคาบสมุทรสทิงพระ
มีการแบ่งพื้นที่ความเหมาะสมในการการปลูกข้าว ได้เป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย
-
เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวมาก (S1) เนื้อที่ 306,145
ไร่ มีการปลูกข้าว 171,395 ไร่
-
เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวปานกลาง (S2) เนื้อที่
22,985 ไร่ มีการปลูกข้าว 5,672 ไร่
-
เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวน้อย (S3) เนื้อที่ 23,100 ไร่
มีการปลูกข้าว 798 ไร่
-
เขตพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว (N) เนื้อที่ 387,491 ไร่
มีการปลูกข้าว 2,167 ไร่
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขตที่มีความเหมาะสมมาก
(S1) และมีความเหมาะสมปานกลาง (S2) มีผลผลิตเฉลี่ย
716.04 กก./ไร่ ผลตอบแทนเฉลี่ย 4,511.05 บาท/ไร่ ต้นทุนเฉลี่ย 3,995.35 บาท/ไร่
คิดเป็นต้นทุนเฉลี่ย 5.58 บาท/กก. มีรายได้สุทธิ
515.70 บาท/ไร่ ทั้งนี้
การจัดทำแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญ
ในเขตที่มีความเหมาะสมมาก (S1) และมีความเหมาะสมปานกลาง (S2) ต้องให้ความสำคัญเรื่องการลดต้นทุน รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขตความเหมาะสมน้อย (S3) และเขตที่ไม่เหมาะสม (N) พบว่า มีผลผลิตเฉลี่ย
507.04 กก./ไร่ ผลตอบแทนเฉลี่ย 3,194.35
บาท/ไร่ ต้นทุนเฉลี่ย 3,617.67 บาท/ไร่
คิดเป็นต้นทุนเฉลี่ย 7.13 บาท/กก. มีรายได้สุทธิ -423.31 บาท/ไร่ อย่างไรก็ตาม การจัดทำแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญในเขตความเหมาะสมน้อย
(S3) และเขตไม่เหมาะสม (N) ต้องให้ความสำคัญโดยพิจารณาเป็นกรณี
คือ หากเกษตรกรต้องการทำนาต่อไป ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการดิน
ปรับปรุงโครงสร้างดินใหม่ การตรวจวิเคราะห์ดิน
แต่หากเกษตรกรต้องการปลูกพืชทางเลือกอื่นเพื่อทดแทนการปลูกข้าว
เกษตรกรต้องศึกษาพืชทางเลือกใหม่ที่มีลู่ทางการตลาด
ดินมีความเหมาะสมกับพืชที่เกษตรกรเลือก รวมทั้งพิจารณาเรื่องข้อมูลต้นทุนการผลิต และรายได้สุทธิของพืชทางเลือก
ด้านนายพลเชษฐ์ ตราโช ผู้อำนวยการ สศท.9
กล่าวเสริมว่า จากการศึกษาพืชทางเลือกของเกษตรกรบนคาบสมุทรสทิงพระ พบว่า เกษตรกรได้มีการปลูกพืชทางเลือกที่สำคัญได้แก่
ปาล์มน้ำมัน พืชไร่และพืชผัก โดยผลตอบแทนของเกษตรกรบนคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา
พบว่า
ปาล์มน้ำมัน
เกษตรกรมีรายได้สุทธิ 5,661.49 บาท/ไร่ พริกเขียวมัน มีรายได้สุทธิ 26,681.30 บาท/ไร่ คะน้า มีรายได้สุทธิ 11,935.93 บาท/ไร่ มะระ มีรายได้สุทธิ 10,180.48 บาท/ไร่ บวบ มีรายได้สุทธิ 9,881.61 บาท/ไร่ ถั่วฝักยาว มีรายได้สุทธิ 7,836.49 บาท/ไร่ กล้วยหอมทอง มีรายได้สุทธิ 61,807.47 บาท/ไร่ ดาวเรืองตัดดอก มีรายได้สุทธิ 55,514.57 บาท/ไร่
และหญ้าหวายข้อ มีรายได้สุทธิ 24,119.08
บาท/ไร่
ทั้งนี้ สศท.9 ยังได้จัดทำแนวทางพัฒนาสินค้า รวม 3
ยุทธศาสตร์ 17 กลยุทธ์ และแนวทางพัฒนาพื้นที่ ขับเคลื่อนโดยอาศัยกระบวนการประชารัฐ
คำนึงถึงความต้องการของเกษตรกรเป็นหลัก บนฐานกลไกของอุปสงค์และอุปทาน
รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่
ทรัพยากรน้ำ องค์ความรู้ แหล่งเงินทุน และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ตลอดจนการร่วมบูรณาการทุกภาคส่วนภายในจังหวัด
อันจะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้แก่พื้นที่ต่อไป
**********************
ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จังหวัดสงขลา